===> ฮานาโกะ ช้างไทยไปดังในสวนสัตว์ญี่ปุ่น <===

นำข้อมูลมาจาก
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=526521 ครับ
ช้างฮานาโกะที่ข้าพเจ้าจะเล่าถึงนี้อยู่ในสวนสัตว์ที่ญี่ปุ่นนานถึง
2 ชั่วอายุคน คือตั้งแต่รุ่นคุณพ่อเป็นเด็กไปเที่ยวสวนสัตว์ก็เคยเห็น
พอมีลูกพาลูกไปสวนสัตว์
ฮานาโกะก็ยังเฉิดฉายให้เห็นแม้จะแก่ชราไปมากแล้วก็ตาม
และเรื่องราวของเจ้าหล่อนตัวนี้ก็กระฉ่อนมากในญี่ปุ่น
ทั้งเป็นหนังสือให้อ่าน รึกึ่งสารคดีทางทีวีให้ดูก็มี
มามะข้าพเจ้าจะเล่าให้ฟัง.... ที่ญี่ปุ่น ช้างจัดว่าเป็นสัตว์ที่ผู้คนให้ความชื่นชอบมากเป็นพิเศษ ช้างไปโผล่ที่ไหนเป็นได้ถูกรุมกรี๊ดกร๊าดปานซุปเปอร์สตาร์เลยทีเดียว
น่าจะพอๆกับบ้านเราที่เห่อหมีแพนด้ากันนั่นแหล่ะ
ย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ไทยได้ส่งช้างไปให้ญี่ปุ่นเพื่อเจริญความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
หนึ่งในนั้นคือ ช้างพังวันดี ไปถึงญี่ปุ่นตั้งแต่กลางปีพ.ศ. 2478 ตอนนั้นอายุ 18 ปีแล้ว .... พังวันดีไปถึงญี่ปุ่นก็ถูกขนานนามใหม่ว่า
"ฮานาโกะ" ฮานะแปลว่าดอกไม้ ส่วนโกะแปลว่าเด็กน้อย
ชื่อดูอ่อนหวานน่ารักมาก
และฮานาโกะก็ดังมากที่ญี่ปุ่นทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ต่างชื่นชอบฮานาโกะกันทั้งนั้น
เพราะญี่ปุ่นไม่มีช้างเป็นสัตว์ประจำถิ่นให้พบเห็น
* สำหรับชื่อวันดีนี้ข้าพเจ้าได้ยึดตามข้อมูลของสถานเอกอัคราชทูต ณ โตเกียว แต่ไปอ่านเจอบางข้อมูลเขียนว่า wanli (วัลลี)

ฮานาโกะ(Wanli)ตัวทางซ้าย ส่วนทางขวามือชื่อ Tonky
เมื่อ พ.ศ.2486 ไม่นานก่อนฮานาโกะจะเสียชีวิต
ฮานาโกะประจำการอยู่ ณ สวนสัตว์อุเอะโนะที่เมืองหลวงกรุงโตเกียว
เป็นขวัญใจชาวประชาได้ไม่กี่ปีก็เกิดสงครามโลกครั้งที่2ขึ้น(พ.ศ. 2482
- พ.ศ.
2488)ระหว่างสงครามนั้นเองฮานาโกะก็ได้ล้มลง(เสียชีวิต)ในปีพ.ศ.2486
บอกสาเหตุอย่างคลุมเครือว่าล้มเพราะขาดอาหารในสภาวะสงคราม
ส่วนข้อมูลอื่นๆเกี่ยวกับนโยบายของกองทัพญี่ปุ่นในขณะนั้นค่อยๆเล่าทีหลังแล้วกัน
(ข้าพเจ้าอยากให้เรื่องราวยังน่ารักต่อเนื่องอยู่ก่อน...)
พอฮานาโกะจากไปอย่างไม่หวนกลับ
เด็กๆที่โตเกียวก็ร่ำร้องอยากได้ช้างตัวใหม่
ทางรัฐบาลก็เอาใจเด็กๆโดยติดต่อกับทั้งทางไทยและอินเดียเพื่อขอช้างเชือกใหม่ไปไว้ที่สวนสัตว์
ช้างพังคชาจากเมืองไทยอายุ 2 ปี และพังอินทิราจากอินเดีย
ทั้งคู่ต่างลงเรือจากคนละที่มุ่งสู่แดนอาทิตย์อุทัย เมื่อปี พ.ศ.2492
ช้างทั้งสองไปถึงก็มีการเฉลิมฉลองรับขวัญช้างกันอย่างเอิกเกริก
แต่ดูเหมือนว่าในตอนนั้นพังอินทิราจะได้รับความนิยมมากกว่า

ที่ท่าเรือโกเบ คนมารอรับเพียบ
พังคชาดูอยากรู้จักผู้คนมาก ไม่เก้อเขินเลย

ภายในสวนสัตว์อุเอะโนะ
งานเลี้ยงต้อนรับพังคชาอย่างใหญ่โต
ตอนแรกๆผู้ดูแลชาวญี่ปุ่นเรียกพังคชาว่า คชาโกะ
ซึ่งต่อมาทางสวนสัตว์อุเอะโนะจัดโครงการให้ชาวญี่ปุ่นช่วยกันตั้งชื่อให้ใหม่ในภาคภาษาญี่ปุ่นและชาวประชาต่างก็โหวตให้กับชื่อ
"ฮานาโกะ"
อีกครั้งชื่อเดียวกับช้างตัวเดิมที่จากไปเมื่อครั้งสงครามที่ผ่านมา
และณ บัดนี้ ความน่ารักของฮานาโกะน้อยก็เริ่มต้นขึ้น
ฮานาโกะโชว์ตัวอยู่ที่สวนสัตว์อุเอะโนะได้ 5 ปี(ฮานาโกะ 7
ปี)ก็ย้ายไปที่สวนสัตว์ Inokashira(ยังคงอยู่ในโตเกียว)
ที่นี่ในโซนช้างแล้วมีเพียงฮานาโกะเชือกเดียวเป็นดาวเด่นอยู่ยาวนานจนปัจจุบัน
ตอนนี้คุณยายฮานาโกะอายุ 62 ปีแล้วค่ะ
มาดูบ้านหลังใหญ่ของฮานาโกะที่ทางสวนสัตว์สร้างให้
อาจช่วยบรรเทาอาการร้อนรุ่มของหลายๆคนที่เห็นเหล่าแพนด้าทั้งหลายถูกประคบประหงมราวไข่ในหิน
ฮานาโกะเราก็ถูกเอาใจไม่ต่างกันเลยค่ะ โดยมีพื้นที่ 260 ตร.ม.
แบ่งเป็นลานกลางแจ้งเอาไว้โชว์ตัวกับห้องพักในร่ม

ภายในที่พักของฮานาโกะ
ที่นอนปูด้วยหญ้าบด
เล่นน้ำโชว์ในหน้าร้อน
สนุกจริงๆเชื่อฮานาโกะเหอะ
มุกเด็ดของฮานาโกะน่าจะเป็นรายการ"ชวนมาเล่นน้ำกับฮานาโกะ"
โดยยื่นสายยางให้ผู้ชม น่าจะเรียกเสียงฮาได้ดีทีเดียว
เล่นแบบนี้แล้วจะไม่หลงรักได้ไง เนอะ
หนึ่งในนิสัยของฮานาโกะคือชอบเป็นจุดสนใจ ชอบให้คนมามุงดู
มีคนเล่าว่าเวลาฮานาโกะมายืนโชว์ตัว
นอกจากเล่นสายยางแล้วก็จะตดเสียงดังมาก คนก็เฮฮากันลั่นเลยสิ
ไม่รู้ว่าเป็นธรรมชาติของฮานาโกะรึเป็นการเรียกร้องความสนใจด้วยการสร้างภาพและเสียงประกอบนะคะ
ฮ่า
โชว์กินกล้วย อาจดูไม่ใช่ความสามารถพิเศษอะไร
ทว่ากิจกรรมประจำวันนี่แหล่ะที่ข้าพเจ้าว่าน่ารักน่าใคร่กว่าโชว์ยากๆเป็นไหนๆ
ป้อนให้จับกินทีละลูกไม่ทันใจ มีเร่งพี่เลี้ยงด้วยนะคะ
เลยเพิ่มเป็นใช้งวงจับทีละสามสี่ลูกซะเลย
อาจเป็นการโชว์การใช้งวงก็ได้นะ

พี่ขาอย่าช้า ฮานาโกะยังไม่อิ่มเลย
เอาอีกเยอะๆได้ป่าว
อายุเลยแซยิดมาแล้วจะไม่มีเหตุการณ์สะเทือนใจสำหรับฮานาโกะเลยก็จะสมบูรณ์แบบไป
ในปีพ.ศ.2499 (อายุ 9
ปีเทียบกับในคนก็เรียกว่ากำลังจะก้าวจากเด็กเล็กไปเป็นเด็กวัยรุ่น)
เกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นคือ
ฮานาโกะทำร้ายคนเมาที่แอบเข้ามาในโรงเลี้ยงช้างตอนกลางคืนจนเสียชีวิต
และต่อมาพ.ศ.2503
ฮานาโกะก็ทำร้ายพี่เลี้ยงเสียชีวิตไปอีกคน
ครั้งแรกอาจเพราะเป็นคนนอกเข้ามาในยามวิกาลทำให้ฮานาโกะตกใจกลัว(
ฮานาโกะมีนิสัยขี้ตกใจ) และเผลอทำร้ายเข้า
แต่ครั้งที่สองที่ทำร้ายพี่เลี้ยงที่คุ้นเคยกัน
บวกกับฮานาโกะมีอาการหวาดระแวง สูญเสียความเชื่อใจคน
ทางสวนสัตว์จึงลงโทษและหมายหัวว่าเป็นตัวอันตรายด้วยการล่ามโซ่ทั้งสี่ขา
สุขภาพจิตเลยย่ำแย่ ซึมเศร้ามาก ร่างกายก็ซูบผอมลงไปมาก
คนที่มาเยี่ยมชมก็เริ่มรับไม่ได้และสงสารฮานาโกะ
มีคนเขียนจดหมายมาขอร้องให้ทางสวนสัตว์ดูแลฮานาโกะให้ดีเหมือนเดิม

ช่วยกรุณาดูแลฮานาโกะดีๆนะคะ
ฮานาโกะน่าสงสารมาก
โลกอึมทึมของฮานาโกะกลับสดใสขึ้นอีกครั้งเมื่อคุณเซอิโซ ยามาคาวะ
มาเป็นพี่เลี้ยงให้ฮานาโกะ
ดูแลฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจของฮานาโกะให้กลับมาวางใจคนได้อีกครั้ง
แม้ฮานาโกะจะจะไม่ถูกล่ามแล้ว
คืนดีกับคนก็แล้วแต่ฮานาโกะยังผอมมากเพราะช่วงตรอมใจร่างกายย่ำแย่คงส่งผลกระทบถึงฟัน
ฮานาโกะฟันร่วงจนเกือบหมดตั้งอายุเพียง 36 ปี
(พ.ศ.2526)ทางสวนสัตว์ต้องจัดเมนูอาหารให้เหมาะกับสภาพของฮานาโกะ
กินอาหารที่เคี้ยวง่ายๆชิ้นเล็กๆ
จนสภาพร่างกายกลับมาสมบูรณ์ได้อีกครั้ง
พี่เลี้ยงต้องดูแลใกล้ชิดมากตลอดเวลาอาจเป็นสาเหตุให้ฮานาโกะติดคนมากอยู่ตัวเดียวไม่ค่อยได้
ขี้เหงาใช้ได้เลยนะเนี่ย

อาหารพอคำของฮานาโกะ
แม้แต่เพื่อนนกก็ติดใจ
อีกทั้งเท้าของฮานาโกะก็ต้องได้รับการเอาใจใส่เป็นพิเศษ
ในสัตว์ใหญ่ๆใช้เท้ารับน้ำหนักตัวตลอด เท้าจึงสำคัญมาก ฮานาโกะหนักถึง
3000 กิโลกรัมยืนตลอดวันและคืน อาจล้มตัวนอนบ้างสัก 1/2-1 ชั่วโมง
แต่ส่วนใหญ่จะยืนหลับ ถ้าเท้าเจ็บทรงตัวยืนไม่ได้นั่นหมายถึงอันตรายถึงชีวิตเลยล่ะค่ะ
พี่เลี้ยงจะตรวจเท้าและทำความสะอาดเท้าและเล็บ ตัดเล็บ
ทาน้ำมันให้ฮานาโกะทุกวัน
กิจวัตรนี้จึงกลายเป็นโชว์น่ารักๆอย่างหนึ่งของฮานาโกะ
โดยจะคอยยกเท้าให้พี่เลี้ยงตรวจทีละข้างแบบรู้งานมาก
คือจัดให้ไม่ต้องสั่ง

ท่านผู้ชมคะ
อย่าคิดไปเชียวว่าเท้าของฮานาโกะตัวเบิ้มแบบนี้จะหนาตามภาระอันหนักอึ้ง
ตรงกันข้าม เท้าเค้าบอบบางมาก
หนังที่หลังของช้างต่างหากที่หนามากเป็นพิเศษ
แต่ข้าพเจ้าว่ายังบางกว่าพวกโกหกออกทีวีรายวันอีกนะคะ
ฮ่า...เอิ๊ก
พี่เลี้ยงคนปัจจุบันของฮานาโกะเล่าถึงนิสัยของฮานาโกะที่คล้ายๆคนเข้าไปทุกที
เช่นว่าตกใจกลัวและไม่ชอบเสียงดังๆของรถพยาบาล หรือฟ้าร้อง
เจอเป็นต้องวิ่งไปรอบๆลาน
ที่กลัวอีกอย่างคือกลัวถูกทิ้งให้อยู่ตัวเดียว ชอบให้คนอยู่ใกล้ๆ
ฮานาโกะเคยเจอเพื่อนช้างตอนเด็กๆเท่านั้น
พอย้ายมาที่นี่ก็อยู่ตัวเดียวมาตลอด เจอแต่คน
จึงนับคนเป็นพวกเดียวกันไปซะแล้ว
เวลาถูกพี่เลี้ยงดุและตำหนิบางทีก็แสดงอาการเศร้าสำนึกผิด
บางทีก็ทำเสียงฟึดฟัดแสดงอาการไม่พอใจก็มี
(อันนี้เหมือนหมาของชั้นมากกก)
ฮานาโกะระงับอารมณ์บางอย่างได้ด้วยนะ
อย่างเวลามีคนที่ฮานาโกะไม่ชอบอยู่ใกล้ๆ จะทำหน้าเฉยๆ
แต่พอลับตาก็แสดงอาการที่เก็บกดทันที ทำไงน่ะรึ ก็ใช้งวงคุ้ยขยะ
ปาข้าวของว่อนเลยน่ะสิ 555 อันนี้จะมากไปมั้ยฮานาโกะ ช่างทำจริง
แบบชั้นเกลียดแกมากแต่ชั้นผู้ดีนะยะไงไม่รู้ เนอะ
บางเรื่องก็อย่าไปหาเหตุผลอะไรกับฮานาโกะเลย
เช่นว่าฮานาโกะจะเหลืออาหารชิ้นสุดท้ายไว้เสมอ ...อยากได้แฟนหล่อมั้ย
5555 รึเป็นชิ้นเกรงใจกลัวหมดกลัวไม่ผู้ดีมั้ยฮึ
รึอยากแบ่งให้พี่เลี้ยงตอบแทนที่ดูแลกัน
แล้วที่กวนมากอีกเรื่องคือ
ไอ้ประตูที่เค้าจัดไว้ให้เดินเข้าออกที่นอนกับลานโชว์ตัว
เจ้าหล่อนก็ไม่ใช้ จะอ้อมไปเข้าออกทางประตูด้านนอกเท่านั้น
อาจไม่ชอบให้ใครมากำหนดกฎเกณฑ์ให้มั้ง
อยากตัดสินใจเอง(หลายคนก็แบบนี้เลยนะคะ 5555)
เดี๋ยวนี้ฮานาโกะสุขสบายตามอัตภาพ ของช้างสูงวัย 62 ปี ฟันซี่เดียว
สูงวัยที่สุดในบรรดาช้างด้วยกันในญี่ปุ่นแล้วค่ะ เพราะเมื่อ 17 ก.ย.
พ.ศ.2552ที่ผ่านมาช้างอุเมโกะ(จากไทย)อายุ 62 ปีเพิ่งเสียชีวิตไป
ตำแหน่งนี้เลยตกแก่ฮานาโกะโดยปริยาย

ฮานาโกะก็รักทุกคน
อย่าลืมแวะมาเยี่ยมฮานาโกะด้วยนะคะ
เพิ่มเติมเพื่อการันตีความโด่งดังของฮานาโกะ
ลูกชายของคุณยามาคาวะ
ได้เรียบเรียงเรื่องราวที่น่าประทับใจระหว่างพ่อของเค้ากับฮานาโกะ
เป็นหนังสือชื่อ "ฮานาโกะ ช้างที่พ่อรัก" ในปีพ.ศ.2549
ค้นได้ชื่อหนังสือภาษาญี่ปุ่นมา Chichi ga Aishita Zou no Hanako
(Hanako the elephant that my father loved) Koji Yamakawa
และมีเป็นสารคดีทางทีวีฟูจิชื่อ Zou no Hanako (2007)(Those
Poor Elephants)เป็นเรื่องราวของฮานาโกะทั้งสองสมัยเลย
ข้าพเจ้าก็ยังไม่มีโอกาสได้ดูเรื่องนี้เลยแต่คาดว่าจะคล้ายกับที่ข้าพเจ้าเล่ามาทั้งหมด

Zou no Hanako (2007)(Those Poor Elephants)

อ่านเรื่องน่ารู้เรื่องอื่นๆ
คลิ๊กที่นี่เลย
